สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ วันนี้ทีมงาน(ตามรอยนักชิม)ก็ยังคงประจำการอยู่ที่แถวๆถนนราชวัตร เช่นเคย…เนื่องจากคราวที่แล้วยังคงจำกันได้ใช่มั้ยล่ะครับ ที่เราไปชิม ร้าน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวรสเด็ด นายอ้วน (เจ้าเก่า) สี่แยกราชวัตร  จากนั้นเมื่อเราขับรถถัดมาอีกนิดหน่อยก็จะพบกับร้านที่มีลูกค้าแน่นมากมายขนาดล้นออกมาจากนอกร้านกันเลยทีเดียว (อะไรจะขนาดนั้น) และที่สำคัญลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นทหารกันทั้งนั้นเลย อิอิ งานเข้า…

  คราวนี้ตามรอยนักชิมและพี่ปิ่นโตเถาเล็กขอเปลี่ยนบรรยากาศพาเพื่อนๆมารู้จักของหวานอร่อยๆแบบไทยเดิมเรากันบ้างสำหรับ..สิงคโปร์โภชนา (ลอดช่องสิงคโปร์) สูตรต้นตำรับกว่า 60ปี ที่มีจุดกำเนิดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในเยาวราชบ้านเรานี่เองครับ แถวๆย่านถนนเจริญกรุงแห่งนี้   จุดเริ่มแรกของตำนาน“ลอดช่องสิงคโปร์“ก็คือที่จอดรถเฉลิมบุรีแห่งนี้เคยเป็น โรงหนังเฉลิมบุรี หรือโรงหนังสิงคโปร์ มาก่อนและเขาก็ทำลอดช่องขายอยู่ตรงทางเข้าโรงหนังพอดี จึงเป็นที่มาของชื่อลอดช่องสิงคโปร์ด้วย แต่ขอคอนเฟิร์มว่าไม่ได้เป็นของชาวสิงคโปร์แต่อย่างใด เป็นลอดช่องแมดอินไทยแลนด์แท้ๆนี่เองครับ…

เมื่อมาถึงเสาชิงช้ากันทั้งที..อีกร้านที่ mthai ไม่พลาดก็คือ ร้านราดหน้าสูตร 40ปี ตรงแถวๆศาลเจ้าพ่อเสือครับ ระหว่างทางที่พี่มาเฟียฟู้ดกำลังเดินไปนั้นก็จะได้ยินเสียงโป๊ง… เป๊งงงงงงงง..โป๊ง.. เป๊งงงงงงงง ดังมาเป็นระยะๆเคาะมาไม่ขาดสาย ตกลงว่านี่มานั่งกินราดหน้าหรือทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันแน่ละนิ หุหุ (ว่าแต่คนเยอะมากๆเลยนะเนี่ย) ร้านนี้เค้าขึ้นชื่อว่าอร่อยขั้นเทพจนต้องขึ้นทะเบียนจดลิขสิทธิ์กันเลยทีเดียวครับ (บะหมี่กรอบผัดซีอิ๋วรวมมิตรทะเลเมนูแปลกๆที่ห้ามพลาด!)…

จากร้านก๋วยเตี๋ยวกะลา ร้านใบตอง ผมขอแนะนำให้ท่านเดินถัดมาใกล้ๆกันภายในตลาดบางนกแขวกนั้นยังมีของอร่อยๆอีก ได้แก่ ร้านบ้านขนมจีน ที่มีรัศมีโดดเด่นไม่แพ้ใคร…หลายคนๆที่มาต่างพากันหลงใหลในเสน่ห์รสชาติของ ขนมจีนซาวน้ำใส่แจงลอน ที่ในยุคสมัยนี้นับว่าหาทานได้ยากเหลือเกิน ขึ้นชื่อว่าบ้านขนมจีนทั้งทีมาที่นี่ไม่ผิดหวังครับ เพราะเค้าครบเครื่องเรื่องขนมจีนทุกชนิดอยู่แล้ว   ขนมจีนซาวน้ำใส่แจงลอน ทำจากเนื้อปลากราย แล้วแจงหรือบี้ให้เป็นลอนๆ หน้าตาคล้ายลูกชิ้นนั่นแหละครับ…