เครื่องชงกาแฟ NESCAFÉ Red Cup นิยามบทใหม่ของการชงกาแฟ

Home / Uncategorized / เครื่องชงกาแฟ NESCAFÉ Red Cup นิยามบทใหม่ของการชงกาแฟ

เครื่องชงกาแฟ NESCAFÉ Red Cup นิยามบทใหม่ของการชงกาแฟ

ด้วยความเป็นมนุษย์ที่ชีวิตไม่เคยขาดแคลนคาเฟอีน เรียกได้ว่าฉีดเข้าเส้นได้อาจจะฉีด ทำให้เราได้ติดตามวงการกาแฟพอสมควร แน่นอนหนึ่งในปัจจัยสำคัญ คือ เรื่องรสชาติ และบรรยากาศของร้านกาแฟ มาระยะหลังนี้ มีความรู้สึกว่าอยากจะชงมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เพราะไปติดใจเมล็ดอาราบิก้า ตอนไปแอ่วเหนือ ที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่าความเพอร์เฟ็กต์ของรสชาติแก้วนั้น สามารถสร้างสรรค์ได้จากเมล็ดกาแฟเป็นหลักนั่นเอง จนเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนที่กลับจากอังกฤษ หิ้วเครื่องชงกาแฟเทอร์โบกลับมาด้วยตัวหนึ่ง ซึ่งเข้าใจอีกแล้วว่าคงเอาไว้ชงกันตายตามประสาเด็กเรียนนอก หากาแฟดื่มช่วงสอบไม่ได้ แต่พอลองชงบ้างเท่านั้นแหละ อยากจะซื้อต่อเจ้าเครื่องชงก๊องแก๊งนั้นเหลือเกิน!! unnamed (5) ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสวรรค์มีตาขนาดไหน เช้าวันหนึ่งพี่ที่ออฟฟิศ จึงประทานเจ้า NESCAFÉ Red Cup เครื่องชงกาแฟ ไซส์มินิ เครื่องนี้ แล้วบอก “แกเอาไปลองชงดูสิ อร่อยไหม บอกด้วย” !!

Chapter 1 การใช้งานครั้งแรก

How to make End Cup อยากจะข้ามไประบายความในใจของรสชาติที่แสนหอมหวานจากแก้วโปรด แต่ขอย้อน step กลับมายังตัวเครื่องใช้ชื่อแบรนด์ NESCAFÉ Red Cup ตอกย้ำโปรดักส์ไลน์ที่ติดตลาดอยู่ก่อนแล้วของกาแฟสำเร็จรูป ทำให้แบรนด์รอยัลตี้ไม่ต้องจำอะไรเพิ่มมาก แค่นึกถึงการชงกาแฟ ที่ไม่ได้มีแค่การชงกาแฟสำเร็จรูปเติมเนสท์เล่ คอฟฟี่เมต เท่านั้นแต่ได้เครื่องชงกาแฟมาสร้างบรรยากาศการจิบกาแฟได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น กลับมาที่ตัวเครื่องที่ตอกย้ำแบรนด์ holistic ด้วยสีสันแดงฉาน เข้ากับคอนเซ็ปต์เรดคัพ ตั้งแต่ตัวเครื่องยันหัวปลั๊ก งานประกอบเครื่องดูผิวเผิน เหมือนพลาสติกธรรมดา แต่หากจับพวกข้อต่อ ชิ้นส่วนต่างๆ จัดว่าประณีตมาก เพราะเชื่อมต่อกันแน่นสนิท หลังจากประกอบ ให้อะไหล่มาเท่าที่จำเป็น ทั้งถาดรอง ถังน้ำด้านหลังดีไซน์แนบกลับตัวเครื่องได้อย่างชาญฉลาด ปุ่มปฎิบัติการด้านบนสีดำตัดกลับตัวเครื่องสีแดงอย่างลงตัว เลือกวางไว้เพียงปุ่มเดียว ให้สามารถควบคุมได้ 3 เมนู คือ ตีฟอง(สำหรับทำคาปูชิโน , ลาเต้) ปุ่ม Stop และ ปุ่ม กาแฟ (ทำเอสเปรสโซ)

Chapter 2 นุ่มๆ กับ Cappuccino

ปุ่มเปิด/ปิด จะอยู่ด้านซ้ายพร้อมสัญญาณไฟกระพริบ แดง และเขียว ที่แปลว่าพร้อมชง เริ่มต้นสร้างแก้วโปรด ในแบบเรา เริ่มจากถอดถังใส่น้ำด้านหลังและเติมน้ำลงไปก่อนจะประกอบกลับเข้าที่ตัวเครื่อง หลังจากนั้นเติมเนสท์เล่คอฟฟีเมต 2 ช้อนชา ลงในแก้ว จากนั้น เติมกาแฟสำเร็จรูป เนสกาแฟเรดคัพ ลงในช่องใส่กาแฟ 1 ช้อนชา เสียบปลั๊กแล้วจิ้มไปที่ปุ่ม เปิด/ปิด สัญญาณไฟจะกระพริบสีแดง ใช้เวลาประมาณ 40 วินาที เร็วกว่าเปิดคอมพิวเตอร์อีก ปุ่มจะกลายเป็นสีเขียว ให้เราบิดปุ่มปฏิบัติการณ์ไปที่เมนูตีฟอง เพื่อทำฟองครีมหนานุ่มจากเนสท์เล่ คอฟฟีเมต รอน้ำฉีด 2 ครั้ง เมื่อได้ฟองครีมจนพอใจ บิดกลับไปที่ Stop หลังจากนั้นบิดไปทางขวาเพื่อปล่อยกาแฟค่อยๆไหล ลงในแก้วจะสามารถ เห็นชั้นกาแฟ ได้อย่างชัดเจน สวยงามอลังการ เมื่อได้กาแฟปริมาณที่พอเหมาะแล้ว บิด กลับมาที่ Stop เลือกเติมความหวานตามใจชอบ คุณก็จะได้คาปูชิโน่ หรือ ลาเต้ เด็ดๆ มาแล้วหนึ่งแก้ว ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาไปเพียง 1.40 นาที เท่านั้น

Chapter 3 เข้มๆ หอมกรุ่น แบบ Espresso

หากคุณชอบความเข้มข้นแบบเอสเปรสโซ ก็สามารถทำได้ง่าย เร็ว และสะดวกมากๆ หลังจากที่ปลายลิ้นได้ลองสัมผัสเบาๆ ฟองเอสเปรสโซ จาก เครื่องชงกาแฟ NESCAFÉ Red Cup เครื่องนี้แล้ว แทบจะอยากพกไปชงทุกที่จริงๆ ส่วนรสชาตินั้นต้องบอกว่า …ทำเอาลืมร้านกาแฟชื่อดังไปเลย!!

Chapter 4 การทำความสะอาด

Chapter 5 การล้างคราบตะกรัน

unnamed (6) ข้อดี เร็ว พกพาสะดวก ด้วยความสูงระดับแท็บเล็ต สร้างคาปูชิโน่ ลาเต้ ได้จาก กาแฟสำเร็จรูปธรรมดา ราคาเป็นมิตรกับนักดื่มกาแฟมาก ขนาดสูงสุด 15 บาร์ ข้อเสีย เสียงดังนิดหน่อยในระหว่างสร้างครีมฟอง ซึ่งใช้เวลาเพียง 40 วินาทีเท่านั้น