เต็มคำกับอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเซะ ที่ร้าน Sushiyoshi Bangkok

หากพูดถึงร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเซะแถวสาธร ณ ตอนนี้คงต้องยกให้ร้าน Sushiyoshi Bangkok ที่เราได้ไปทานมา โดดเด่นในด้านวัตถุดิบ สด ใหม่ บวกกับไอเดียการสร้างสรรค์เมนูบรรเจิดของเชฟ ทำให้ทั้งอร่อยและเพลิดเพลินมากๆ ในแต่ละเมนูคือ Co-Create สุดๆ เราลุ้นตลอดว่าเมนูต่อไปจะหน้าตาเป็นอย่างไร และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เรามาเริ่มกันเลย

เต็มคำกับ อาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเซะ

ที่ร้าน Sushiyoshi Bangkok

ไข่ปูทะเลท้อปปิ้งด้วยไข่หอยเม่นและไข่คาเวียร์

มันปูไข่ปูเนื้อปู ฟินๆกันไปเลย ตอนเสิร์ฟจะมาพร้อมมะนาว ซึ่งเชฟบอกว่ามะนาวก็นำเข้ามาจากญี่ปุ่น บีบลงบนไข่ปูกลิ่นหอมโชยเตะจมูกอย่างแรง ใต้กระดองปูจะมีเกลือให้ด้วย เราก็แค่แตะๆเพราะกลัวเค็มเกินไป ใครชอบมันปูรับรองฟินสุดๆ

ปลา Kisu ย่าง โรยด้วยน้ำตาลปี๊บขูด

ปลา Kisu หรือปลาทราย เนื้อสด ไม่มีกลิ่นคาวเลย โรยด้วยน้ำตาลปี๊บไทยขูดฝอยๆ เนื่องจากเชฟไปสำรวจตลาดไทย และสนใจวัตถุดิบน้ำตาลปี๊บนี้ จึงนำมาเป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งที่ถือว่าลงตัวมาก ตกแต่งด้วยดอก Spring Onion เก๋ๆ และทานได้จริงด้วย

ซูชิกุ้งลายเสือ

การเสิร์ฟของที่นี่ก็ยื่นจากมือเชฟ รับจากมือเชฟแล้วเข้าปากกันเลย สำหรับเมนูนี้คือซูชิกุ้งลายเสือ หรือ Kuruma Sushi รสชาติของคำนี้จะได้กลิ่นดองๆเปรี้ยวๆนิดนึงของข้าวหมัก แต่ตัวกุ้งสดเช่นเคย ถือว่าลงตัวเข้ากันดี

ปลาโนโดกุโระในมากิ

ในมากิห่อสาหร่ายนั้นเป็นปลาโนโดกุโระ (Nodoguro) หรือปลากระพงสีชมพู ที่เชฟนำไปย่างหอมๆ ที่สำคัญความสดของปลาทำให้เพิ่มรสชาติยิ่งขึ้น

ไข่หอยเม่น

ไข่หอยเม่นหรืออูนิ (Uni) สดๆจากญี่ปุ่น เป็นสายพันธุ์มุราซากิ (Murasaki) เชฟจะให้เลือกว่าจะทานแบบซาชิมิ หรือ ซูชิ หากใครทานแบบซาชิมิก็จะเสิร์ฟแบบวางบนมือเลย แต่ครั้งนี้เราเลือกทานแบบซูชิ ก็จะมาในรูปข้าวปั้น

ซูชิปลาทูน่าวาซาบิสด

ซูชิคำนี้เสิร์ฟมากับปลาทูน่าที่ใช้ส่วนของอากามิ (Akami) เป็นส่วนของเนื้อปลาที่ไม่มีไขมัน และชูโทโร่ (Chutoro) เป็นส่วนของเนื้อปลาที่มีไขมันปานกลางสลับกับชั้นเนื้อปลา ซึ่งเชฟนำไปย่างไฟกำลังพอดีคำ หอมกลิ่นฟางไฟทานพร้อมกับวาซาบิสด อร่อยนุ่มชุ่มลิ้นมากๆ

หอยเป๋าฮื้อสดๆ

หอยเป๋าฮื้อ (Awabi) ที่นำไปนึ่งจนได้ที่ ก่อนนำมาเสิร์ฟเชฟจะคุมอุณหภูมิที่อยู่ในระดับความร้อนที่อร่อย ทำให้กัดลงไปแล้วนุ่มๆหนึบๆกำลังดี อร่อยมากๆ ชิ้นหนาเต็มคำ ไม่เท่านั้นเชฟยังเสิร์ฟ “ฟัน” ของหอยเป๋าฮื้อมาให้ชิมด้วย กรุบๆเหมือนทานกระดูกอ่อนที่เปื่อยๆเลย

ซูชิปลากิงคิ

ปลากิงคิ (Kinki) เป็นปลาน้ำลึกจากประเทศญี่ปุ่น ซูชิคำนี้จะมีกลิ่นมินต์ๆผสมกับเห็ดชิตาเกะหั่นฝอย เคี้ยวผสมกันมีกรุบๆแต่นิ่ม หอม อร่อยมากๆ

ปลาคัตสึโอะย่างราดน้ำมันทรัฟเฟิล

ปลาคัตสึโอะชิ้นโตที่ย่างแบบด้านนอกสุกกำลังดี ด้านในเป็นเนื้อสีแดงน่าทาน ส่วนหนังปลากรอบดีมาก ราดด้วยน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลหอมๆ เสิร์ฟพร้อมมูสขาว ซึ่งผสมวาซิบิ

ของหวาน กุ้งโบตั๋นสับราดไอศกรีม

เป็นของหวานที่ตอนแรกนึกว่าของคาว แต่เชฟก็ยืนยันว่าจานนี้เป็นของหวานจริงๆ คือ กุ้งโบตั๋น (Botan Ebi) นำมาทุบๆแผ่ออกให้เป็นแผ่น ท้อปปิ้งด้วยไอศกรีม ได้รสชาติหวานๆมันๆที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ

ของหวาน อบาโลนเค้ก

ไม่ธรรมาดาอีกเช่นเคย ซึ่งเชฟนำตับของเป๋าฮื้อมาเป็นส่วนผสมกับเนื้อเค้ก ที่ตีเข้ากันปั่นได้ที่ โรยหน้าด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลมะพร้าวหอมๆ

ใครชอบทานอาหารญี่ปุ่นสไตล์ โอมากาเซะ ลองแวะมาตามรอยได้เลย ซึ่งคอร์สทั้งหมดจริงๆจะมีถึง 15-18 คำเลยทีเดียว! ทานจนอิ่มแน่นอน! แต่เนื่องจากการครีเอทเมนูและร้านที่จำกัด แนะนำว่าควรโทรมาจองก่อนเท่านั้น ซึ่งร้าน Sushiyoshi Bangkok ตั้งอยู่ในโรงแรม W Hotel สาธร

อัลบั้มภาพ 31 ภาพ

ดูทั้งหมด 31 ภาพ

จำนวนคอร์สเมนู: ทั้งหมดประมาณ 15-18 คำ
เวลา: มื้อเย็น 20.30-23.00 น.
ราคา: ประมาณ 6,800 บาท (สอบถามทางร้านอีกครั้ง)
เบอร์โทรเพื่อสำรองที่นั่ง: 082 546 4456
ที่ตั้งร้าน Sushiyoshi Bangkok