7 อันดับ เมนูอาหารทะเลที่ชวนแหวะสุดๆ

Home / โปรโมชั่นร้านอาหาร / 7 อันดับ เมนูอาหารทะเลที่ชวนแหวะสุดๆ

คิดว่าหลายคนคงจะชอบกินอาหารทะเลอร่อยๆ อย่างกุ้ง หอย ปู ปลา เอามาทำเป็นเมนูต่างๆ ตามปกติ ถ้าแปลกขึ้นมาหน่อย ก็เป็นพวกของทะเลดิบๆ อย่างปลาดิบ หอยดิบ หรือปลิงทะเลดิบ แต่ถ้าเป็นอาหารทะเลที่แปลกกว่านี้มากๆ คุณจะกล้ากินหรือเปล่า? ลองดูรายการเมนูอาหารทะเลชวนแหวะพวกนี้ แล้วลองคิดดูว่าจะยอมกิน หรือยอมทนหิวดีกว่ากัน 7 อันดับ เมนูอาหารทะเลที่ชวนแหวะสุดๆ

 

1.Lutefisk

1

Lutefisk เป็นอาหารท้องถิ่นในแถบสแกนดิเนเวีย ทำมาจาก ปลาเนื้อขาวตากแห้งแล้วเอามาแช่ไว้ในน้ำด่างหรือขี้เถ้า จนเนื้อปลาเปลี่ยนรูปกลายเป็นเยลลี่ หน้าตาดูไม่มีพิษภัย แต่ความจริงแล้ว เยลลี่ปลานี้มีสภาพความเป็นด่างสูงมาก (pH11-12) และมีฤทธิ์กัดกร่อน ดังนั้น เพื่อให้สามารถทำมารับประทานได้ จึงต้องเอาเยลลี่เนื้อปลาที่ได้แช่ในน้ำเย็นจัดเป็นเวลา 6 วัน แล้วจึงนำไปประกอบอาหารต่อไป

Lutefisk สามารถทำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลายเหมือนกับเนื้อปลาปกติ แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อย คือ ห้ามใช้จาน ช้อนส้อม หรืออุปกรณ์การกินอื่นๆ ที่ทำมาจากเงิน เพราะจะทำให้เนื้อเงินโดนทำลายถาวร

เป็นที่ว่ากันว่า Lutefisk นี้มีกลิ่นและรสชาติที่แย่มาก ผู้ที่ได้ลองกินบางคนมักจะเปรียบเทียบมันกับ ?ยาเบื่อหนู? (ซึ่งก็มีส่วนจริง เพราะสารเคมีที่เกิดจากการแช่ในด่างเป็นตัวเดียวกับในยาเบื่อหนู) ไปจนถึง ?อาวุธชีวภาพทำลายล้างโลก?? เลยทีเดียว

 

2.Muktuk

2

เดี๋ยวนี้มีวิธีการลดน้ำหนักอีกแบบ ที่เรียกว่า Seafood Diet โดยเน้นไปที่การรับประทานอาหารทะเลแทนอาหารธรรมดา เพราะเชื่อว่าอาหารทะเลนั้นไม่มีไขมัน ช่วยลดความอ้วนได้ แต่หลักการนี้ใช้ไม่ได้กับอาหารจานนี้แน่ๆ

Muktuk เป็นอาหารของชาวเอสกิโม ทำมาจาก หนังและไขมันปลาวาฬ วิธีกินก็ไม่ยุ่งยากอะไร ตัดกินกันสดๆ แบบนั้นแหละ หรือบางทีก็เอามาทำให้สุกก่อนได้ด้วยการต้ม หรือผัด แต่ชาวเอสกิโมนิยมกินกันแบบดิบๆ มากกว่า ถึงจะไม่น่ากินแต่ก็เป็นอาหารที่มีประโยชน์สูงเพราะมีวิตามินซีสูงมาก แต่ไขมันก็สูงด้วยเหมือนกัน

 

3.Kiviak

3

เรายังอยู่กับเมนูของชาวเอสกิโม ดูเหมือนว่าภูมิประเทศที่มีแต่น้ำแข็งกับอากาศหนาวจะทำให้ชาวเอสกิโมมีแต่เมนูอาหารแปลกๆ ทั้งนั้น

วิธีการทำเมนู Kiviak เริ่มจาก ฆ่าแมวน้ำหนึ่งตัว ควักเครื่องในออกให้หมดเหลือแต่ท้องเปล่าๆ เสร็จแล้ว นำนก Auks ที่ฆ่าเรียบร้อยแล้วยัดเข้าไปในท้องแมวน้ำ (นก Auks คือ นกชนิดหนึ่งที่รูปร่างคล้ายๆ กับเพนกวินแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก) ไม่ต้องชำแหละหรือเอาขนของนกออก ยัดเข้าไปทั้งตัวเลย เสร็จแล้วก็เย็บปิดท้องแมวน้ำ แล้วนำเอาหินหนักๆ มาทับไว้ หลังจากนั้นอีกหลายเดือนเมื่อนกในท้องแมวน้ำเน่าเปื่อยได้ที่แล้ว ก็นำมากินได้

เชื่อหรือไม่ เมนูสุดโหดนี้ถือเป็นอาหารพิเศษที่จะทำเสิร์ฟในงานสำคัญๆ เช่น งานวันเกิด หรืองานแต่งงาน เพราะฉะนั้นใครไปเที่ยวงานเทศกาลแถวกรีนแลนด์ต้องระวังไว้ให้ดี

 

4.Hakarl

4

เมนูสุดโปรดของชาวไอซ์แลนด์ เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเมนูนี้ไว้แล้ว ที่นี่

วิธีการทำ Hakarl? คือ นำเอาเนื้อปลาฉลามมาฝังไว้ในดินประมาณ 6-12 สัปดาห์ จนเน่าได้ที่ จากนั้นจึงขุดมาตากแห้ง แล้วเอาไปรัปประทานได้ สาเหตุที่ต้องไปฝังก่อนนั้นก็เพราะว่า เนื้อฉลามดิบนั้นเป็นพิษ จึงต้องเอาไปฝังให้พิษออกหมดก่อนจึงจะกินได้ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เนื้อที่ได้จะยังมีกลิ่นฉุนของแอมโมเนียหลงเหลืออยู่ (แบบเดียวกับปัสสาวะ)

เมนูนี้เป็นเมนูที่ชาวไอซ์แลนด์ชอบกินกัน อีกทั้งยังชอบเอาไว้หลอกให้นักท่องเที่ยวกินเป็นที่สนุกสนานกันอีกด้วย

 

5.Stinkheads

5

ยังมีต่อสำหรับเมนูอาหารเน่าจากชาวเอสกิโม เมนูนี้คือ หัวปลาเน่า วิธีทำคือ นำหัวปลามาฝังไว้ในหลุม รอจนเน่า แล้วขุดขึ้นมากิน (คล้ายๆ กับ Hakarl) เนื้อปลาที่ได้จะเปื่อยยุ่ย กินได้ทั้งเนื้อ ลูกตา และกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ควรระวังไว้เพราะกินของมันเหม็นมาก ขนาดชาวพื้นเมืองที่ชอบกินเองก็ยังบ่น และกลิ่นนี้จะติดตัวล้างไม่ออกไปอีกหลายวัน

 

6.Sannakji

6

ใครเป็นแฟนเกาหลีน่าจะรู้จักเมนูนี้ดี Sannakji คือ หนวดปลาหมึกสด คำว่า สด ในที่นี้ คือ ยังดิ้นได้อยู่ เป็นอาหารราคาแพงในประเทศเกาหลี

วิธีการเตรียม คือ หนวดปลาหมึกจะถูกตัดออกมาขณะที่ปลาหมึกยังเป็นๆ อยู่ จากนั้นจัดใส่จาน ราดด้วยน้ำมันงา แล้วนำไปเสิร์ฟ บางคนก็ชอบเมนูนี้เพราะชอบความรู้สึกที่อาหารดิ้นสู้อยู่ในปาก อย่างไรก็ตาม เวลากินจะต้องระมัดระวังมาก เพราะปุ่มที่หนวดปลาหมึกยังใช้งานได้อยู่ เวลากลืนลงไปอาจจะติดคอได้ เป็นเมนูที่อันตรายและเสี่ยงตายเกินไปหน่อย ใครอยากลองกินต้องคิดดูให้ดีๆ ก่อน

 

7.Tuna Eyes

7

คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากสำหรับเมนูนี้ แค่ดูรูปก็สยองแล้ว ลูกตาของปลาทูน่า ถือเป็นเมนูสุดหรูของชาวญี่ปุ่น มีิวิธีการปรุงหลากหลายทั้งนำมาผัด ต้ม หรือทอด ไม่แน่ใจว่ากินดิบๆ กันด้วยหรือเปล่า แต่จะทำวิธีไหนผลออกมาก็ยังน่ากลัวอยู่ดี

ลูกตานี้มักจะเสิร์ฟมาในจานแบบเต็มลูก แล้วให้คนกินมาหั่นเอาเอง คุณจะได้ซึมซับรสชาติพร้อมกับได้รับประสบการณ์แบบใหม่ ขณะที่อาหารในจานจ้องหน้าคุณไปด้วย เท่าที่ลองอ่านมา ส่วนใหญ่แล้วคนที่ลองกินจะบอกกันว่า เหมือนปลาหมึก กับไขมันปลา เวลาเคี้ยวจะรู้สึกหนึบๆ รสชาติค่อนข้างใช้ได้ ใครกล้าพอก็ลองกินดูเองได้เลย แต่เราคงต้องขอผ่าน

credit : everyday-readers.com