อาหารพระราชทาน

เจลลี่โภชนา อาหารพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

Home / สูตรอาหาร / เจลลี่โภชนา อาหารพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

อาหารพระราชทาน คือ อะไร?

1386998570-image-o

อาหารพระราชทาน เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาภายใต้โครงการ “นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก” ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างมูลนิธิทันตนวัตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มีความชำนาญเฉพาะด้านทั้ง 6 แห่ง คือ

  • มูลนิธิอานันทมหิดล
  • คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  • บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะทุพโภชนาการและพัฒนาคุณภาพชีวิตในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งและโรคอื่นๆ ในช่องปากที่มีปัญหาเคี้ยวและกลืนลำบากให้สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวมักจะประสบปัญหาการรับประทานอาหารเนื่องมาจากการสูญเสียอวัยวะบดเคี้ยวหรืออาการเจ็บช่องปาก ทำให้รับประทานอาหารได้น้อย หรือไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ในผู้ป่วยบางราย ทำให้มีความจำเป็นต้องได้รับอาหารทางสายยาง  ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เกิดปัญหาภาวะทุพโภชนาการและขาดคุณภาพชีวิตที่ดีในที่สุด ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงมีลักษณะนิ่มกลืนง่ายและมีสารอาหารให้พลังงานที่เหมาะสม

jelly001

อาหารพระราชทาน 1 กล่อง มีปริมาตร 250 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 230-260 กิโลแคลอรี จึงเหมาะสำหรับรับประทานเสริมเพื่อให้ได้รับพลังงานจากอาหารที่เพียงพอ และอาจสามารถทดแทนการให้อาหารทางสายยางได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ปัจจุบันอาหารพระราชทานที่ผลิตสำเร็จแล้วมี 2 รสชาติ ได้แก่ รสชานมและรสมะม่วง

*อาหารพระราชทาน ผ่านการทำปราศจากเชื้อด้วยระบบ UHT จึงเก็บได้ 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น

img_6277

วิธีรับประทานต้องทำอย่างไร?

  • ใช้กรรไกรตัดปากกล่อง แล้วใช้ช้อนตักรับประทาน หรือ เทออกใส่จานเพื่อรับประทาน
  • หลังจากเปิดกล่องแล้ว ควรรับประทานให้หมด หรือเก็บในตู้เย็นไม่เกิน 7 วัน
  • แช่เย็น เพื่อความอร่อย
  • สามารถรับประทานได้ทั้งผู้บริโภคทั่วไป และผู้มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยวและการกลืน
  • ผู้ที่มีปัญหาแพ้นม สามารถรับประทานได้
  • ผู้ที่มีปัญหาโรคไต หรือเบาหวาน ไม่ควรทานเกินวันละ 1 กล่อง

ที่มา: มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์, มหิดล และ Pantip