อาหารพระราชทาน คือ อะไร?
อาหารพระราชทาน เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาภายใต้โครงการ “นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก” ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างมูลนิธิทันตนวัตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มีความชำนาญเฉพาะด้านทั้ง 6 แห่ง คือ
- มูลนิธิอานันทมหิดล
- คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
- ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
- บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะทุพโภชนาการและพัฒนาคุณภาพชีวิตในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งและโรคอื่นๆ ในช่องปากที่มีปัญหาเคี้ยวและกลืนลำบากให้สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวมักจะประสบปัญหาการรับประทานอาหารเนื่องมาจากการสูญเสียอวัยวะบดเคี้ยวหรืออาการเจ็บช่องปาก ทำให้รับประทานอาหารได้น้อย หรือไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ในผู้ป่วยบางราย ทำให้มีความจำเป็นต้องได้รับอาหารทางสายยาง ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เกิดปัญหาภาวะทุพโภชนาการและขาดคุณภาพชีวิตที่ดีในที่สุด ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงมีลักษณะนิ่มกลืนง่ายและมีสารอาหารให้พลังงานที่เหมาะสม
อาหารพระราชทาน 1 กล่อง มีปริมาตร 250 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 230-260 กิโลแคลอรี จึงเหมาะสำหรับรับประทานเสริมเพื่อให้ได้รับพลังงานจากอาหารที่เพียงพอ และอาจสามารถทดแทนการให้อาหารทางสายยางได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ปัจจุบันอาหารพระราชทานที่ผลิตสำเร็จแล้วมี 2 รสชาติ ได้แก่ รสชานมและรสมะม่วง
*อาหารพระราชทาน ผ่านการทำปราศจากเชื้อด้วยระบบ UHT จึงเก็บได้ 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น
วิธีรับประทานต้องทำอย่างไร?
- ใช้กรรไกรตัดปากกล่อง แล้วใช้ช้อนตักรับประทาน หรือ เทออกใส่จานเพื่อรับประทาน
- หลังจากเปิดกล่องแล้ว ควรรับประทานให้หมด หรือเก็บในตู้เย็นไม่เกิน 7 วัน
- แช่เย็น เพื่อความอร่อย
- สามารถรับประทานได้ทั้งผู้บริโภคทั่วไป และผู้มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยวและการกลืน
- ผู้ที่มีปัญหาแพ้นม สามารถรับประทานได้
- ผู้ที่มีปัญหาโรคไต หรือเบาหวาน ไม่ควรทานเกินวันละ 1 กล่อง
ที่มา: มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์, มหิดล และ Pantip