13 ขนมไทยพร้อมสูตร ที่ประดิษฐ์โดย “ท้าวทองกีบม้า”

ละครในเรื่องบุพเพสันนิวาส ที่เป็นละครที่มีเนื้อเรื่องที่เหนือธรรมชาติ ที่คนในยุคปัจจุบัน ย้อนไปสมัยอยุธยา เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา แต่รายละเอียดของเรื่องก็มีความจริงจากประวัติศาสตร์อยู่หลายอย่าง หากใครดูจะรู้จัก มะลิ หรือ มารี กีมาร์ ลูกครึ่งโปรตุเกส-ญี่ปุ่น และเบงกอล เป็นตัวละครที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริง มารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา (Maria Guyomar de Pinha) หรือ “ท้าวทองกีบม้า” ราชินีแห่งขนมไทย

รวมเมนูขนมไทย ที่ประดิษฐ์โดย “ท้าวทองกีบม้า” หรือ “มารี กีมาร์”

เมื่อครั้งที่ท้าวทองกีบม้า เข้ารับราชการในห้องเครื่องต้น กำกับเครื่องชาวพนักงานหวานในพระราชวัง ก็ได้สร้างสรรค์ขนมหวานหลายชนิด โดยดัดแปลงมาจากตำรับอาหารโปรตุเกสให้เป็นขนมหวานของไทย โดยผสมผสานความรู้ด้านการทำอาหารที่มีมาแต่เดิมมารวมเข้ากับวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น ทั้งยังสอนความรู้ดังกล่าวแก่เหล่าสตรีในบัญชา จนตำรับเป็นที่เผยแพร่โดยทั่วไปและตกทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมโปรตุเกสที่แพร่เข้าสู่สังคมไทยด้วยเหตุนี้ท้าวทองกีบม้าจึงได้การยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งขนมไทย” โดยขนมที่เชื่อว่าท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงเป็นขนมหวานของไทยนั้น มีดังต่อไปนี้

ที่มาข้อมูล wikipedia

ภาพจาก chilljourney.com

1.ทองม้วน

วัสดุ

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. นำแป้งสาลีร่อนใส่ภาชนะไว้ นำมะพร้าวขูดมาคั้นกับน้ำ 7 ขีด นำแป้งสาลีที่ร่อนแล้วและน้ำตาลทรายผสมกันในอ่างผสม ใส่ไข่ไก่และเกลือ คนให้เข้ากัน
  2. จากนั้นใส่น้ำกะทิและงาดำ คนให้เข้ากัน นำพิมพ์ทองม้วนมาอังไฟ ใช้ไฟอ่อน อังจนพิมพ์ร้อนจัด
  3. ทาน้ำมันพืชให้ทั่วพิมพ์ทั้งสองด้าน อังไฟให้ร้อนอีกครั้ง ตักแป้งหยอดบนพิมพ์ บีบพิมพ์ให้แน่น อังไฟสักครู่ พลิกกลับอีกด้าน พอเหลือง
  4. ยกพิมพ์ออกจากเตา เปิดพิมพ์ใช้ปลายมีดแซะขนมขึ้น ม้วนด้วยไม้กลม ๆ ทันทีขณะที่ยังร้อนอยู่

ข้อมูลจาก www.thaismescenter.com

—————————–

2. ขนมทองหยิบ

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. ตอกไข่เป็น ระงอย่าให้ไข่แดงแตก จากนั้นก็แยกไข่แดงมาวางบนผ้าขาวบาง
  2. บีบไข่แดงผ่านผ้าขาวบาง จนได้ไข่แดงที่เนียนละเอียด แล้วตีด้วยเครื่องตีจนเนียนฟู
  3. เทน้ำลอยดอกมะลิลงในกระทะทองเหลือง แล้วนำน้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนงวด
  4. ใช้ช้อนตักไข่แล้วนำไปหยอดในน้ำเชื่อม หยอดให้ไข่แผ่เป็นแผ่นบางๆ แล้วพลิกกลับไปกลับมาให้สุกทั้งสองด้าน
  5. นำขนมมาแช่ให้น้ำสะอาด จากนั้นก็ก็จับจีบให้ได้ 5 แฉก แล้วจัดลงใส่ถ้วยเล็กๆ

————————————

3. ทองหยอด

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. ทำการแยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน ส่วนที่ต้องการคือไข่แดง ส่วนไข่ขาวเก็บไว้ไปประกอบอาหารอย่างอื่น
  2. นำไข่แดงวางบนผ้าขาวบาง แล้วบีบไข่แดงลงไปในชามผสมเพื่อกรองเยื่อไข่แดงให้ไข่เนียนยิ่งขึ้น ตีไข่แดงให้ขึ้นฟูแล้วใส่แป้งข้าวเจ้าลงไปตีอีกครั้งให้เข้ากัน
  3. ผสมน้ำลอยดอกไม้และน้ำตาลทราย ตั้งไฟแรงจนน้ำตาลเดือดพร้อมกับเคี่ยวใช้เวลาประมาณ 20 นาที จนกลายเป็นน้ำเชื่อมข้น
  4. เสร็จแล้วเทส่วนน้ำเชื่อมแยกไว้ในอ่างสำหรับแช่ทองหยอด และส่วนอีกส่วนให้ตั้งไฟไว้สำหรับหยอดทองหยอด
  5. ต้มน้ำเชื่อมให้เดือดฟูตลอด ใช้ปลายช้อนแกงตักแป้งขึ้นมา กะปริมาณให้พอเหมาะ ใช้นิ้งโป้งดันแป้งลงไปในกระทะ
  6. ขนมลอยขึ้นมาแสดงว่าสุกแล้ว ใช้กระชอนตักขนมขึ้นมาแล้วนำมาพักไว้ในชามน้ำเชื่อมที่แยกไว้ จากนั้นก็ตักขึ้นมาใส่ห่อขนมที่เตรียมไว้ได้เลยค่ะ

—————————-

4. ทองพลุ

ภาพจาก Bloggang.com

ส่วนผสม 

วิธีทำ

  1. ตั้งน้ำในหม้อจนเดือด จากนั้นจึงใส่เกลือ และเนยสด คนให้ละลายเข้ากันดี
  2. ค่อยๆ ใส่แป้งสาลีลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำตาล จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน กวนจนแป้งสุก และส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงนำไปใส่หม้อตีแป้ง และใช้เครื่องตี เมื่อแป้งเริ่มคลายความร้อนแล้ว จึงใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟองจนหมด ตีจนแป้งและ ไข่เข้ากันเป็นเนื้อเดียว เนียนสวย เป็นอันเสร็จ
  3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ตักส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ลงไปทอด ครั้งละประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ โดยใช้นิ้วปาดส่วนผสมให้หล่นลงไปในกระทะ เพื่อให้ ได้รูปทรงกลม ทอดจนขนมพองตัวและสุก เหลืองดี จึงตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
  4. นำขนมเสิร์ฟพร้อมไส้ที่เตรียมไว้ ถ้าเสิร์ฟทองพลุไส้เค็ม ให้นำมีดมาผ่าตัวขนมทองพลุ ให้มีช่องพอประมาณ จากนั้นจึงตักใส้เค็มที่ทำเตรียมไว้ ใส่ลงไปในขนมก่อน จึงค่อยนำเสิร์ฟ

ข้อมูลจาก ezythaicooking.com

—————————————-

5. ทองโปร่ง

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. วอร์มเตา 150 องศา
  2. ตีไข่แดงจนฟู ทยอยใส่น้ำตาลทีละนิดจนหมด และใส่วานิลลา
  3. ร่อนแป้งสองรอบก่อน แล้วเอามาผสมกับไข่
  4. เอาพิมพ์ทาน้ำมันบางๆ เข้าเตาอบไปก่อน 2-3 นาที แล้วเอาออกมาหยอดแป้งลงไป 3/4 ของพิมพ์
  5. เอาเข้าเตา 12-15 นาที แล้วก็รอชิมตอนมันเย็นได้เลย

ข้อมูลและรูปภาพจาก myamipann.com

—————————————-

6. ฝอยทอง

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. ต่อยไข่ไก่และไข่เป็ด เลือกเอาเฉพาะไข่แดง นำออกมากรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อรีดเอาเยื่อออก
  2. ผสมไข่แดง, ไข่น้ำค้างและน้ำมันพืชเข้าด้วยกัน คนจนผสมกันทั่ว
  3. นำน้ำลอยดอกมะลิผสมกับน้ำตาลในกระทะทองเหลืองและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง รอจนเดือด
  4. นำส่วนผสมไข่แดงใส่ลงไปในกรวยและนำไปโรยในน้ำเชื่อมที่เดือด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีจนไข่สุกจึงใช้ไม้แหลม สอยขึ้นและพับให้เป็นแพตามต้องการ
  5. จัดใส่จาน เสิร์ฟเป็นของว่างทางเล่นในวันสบายๆ

ข้อมูลจาก ezythaicooking.com

———————————————–

7. กะหรี่ปั๊บ

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. ผัดไส้เตรียมไว้ก่อน โดยใส่น้ำมันรำข้าวและหอมหัวใหญ่ลงไปผัด จากนั้นก็ใส่เนื้ออกไก่ และ มันเทศหั่นเต๋า
  2. ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น เกลือป่น ซอสปรุงรส ผงกะหรี่ และ น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันจนทุกอย่างสุก และ เหนียวสามารถนำมาปั้นได้ เสร็จแล้วตักใส่จานแล้ววางพักไว้
  3. ผสมน้ำเย็นกับน้ำปูนใส ปรุงรสด้วยน้ำตาล และ เกลือ
  4. มาผสมแป้งส่วนของแป้งชั้นนอกกันก่อน โดยเทแป้งลงไปในชามผสม เกลี่ยแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง เทน้ำปูนใสที่ผสมไว้ลงไป ตามด้วยน้ำมันรำข้าว คนให้เข้ากันและนวดแป้งจนเนื้อเนียน แรปแล้วพักไว้
  5. ผสมแป้งชั้นในกับน้ำมันรำข้าว คนให้เข้ากันแล้วนวดจนเนียน และแรปพักไว้
  6. นำแป้งชั้นนอกออกมาตัดแบ่งเป็นชิ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน และแป้งชั้นในก็นำออกมาตัดแบ่ง วางแยกกันไว้ (แนะนำให้ดูตามคลิป)
  7. คลึงแป้งชั้นนอกและชั้นในเสร็จแล้ว นำไส้ที่ผัดไว้มาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วนำมาห่อกับแป้ง จับจีบให้เป็นรูปทรงของกะหรี่ปั๊บ
  8. จากนั้นก็นำไปทอดให้เหลืองกรอบ เสร็จแล้วก็สะเด็ดน้ำไมันขึ้นมาวางพักไว้ เตรียมใส่จานเสิร์ฟ หรือ ใส่กล่องสวยๆ สำหรับมอบให้กับคนอื่น

—————————————–

8. ขนมหม้อแกง

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. ผสมไข่ไก่ นมข้นจืด และน้ำตาลปี๊บ ใส่ถุงมือขยำจนน้ำตาลปี๊บละลาย
  2. ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไปแล้วก็ขยำด้วยใบเตยอีกครั้ง และกรองด้วยกระชอนเพื่อความเนียนของขนม
  3. ใส่เผือกบดลงไป คนให้เข้ากันจากนั้นก็นำหม้อตั้งไฟ ใส่หอมเจียวพร้อมกับน้ำมันของหอมเจียวด้วย
  4. เทส่วนผสมลงหม้อ แล้วคนจนขนมข้นเหนียว ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
  5. เทใส่พิมพ์สี่เหลี่ยม เคาะเพื่อไล่อากาศออก แล้วนำเข้าเตาอบ ใช้ไฟ 120 องศา ในเวลา 25 – 30 นาที
  6. เสร็จแล้วนำออกมาโรยด้วยหอมเจียวหรือเม็ดบัวก็ได้ค่ะ

—————————————–

9. สังขยา

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. ผสมไข่กับหัวกะทิและน้ำตาลปี๊บ และขยำด้วยใบเตย ขำยำจนเข้ากันดี
  2. นำกะทิไปกรองเพื่อให้เนื้อสังขยาเนียน
  3. เตรียมฟักทองและคว้านเนื้อตรงกลางออก เทสังขยาลงไปในฟักทอง 3 ส่วน 4 ของฟักทอง
  4. นำไปนึ่งด้วยไฟอ่อน ใช้เวลา 45 นาที

—————————————–

10. ขนมผิง

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. ผสมกะทิ น้ำตาลทราย เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้เป็นยางมะตูม แล้วยกลง
  2. ใส่ไข่แดง กวนให้เข้ากัน ใส่แป้งนวดให้นานมากๆ หมักแป้งทิ้งไว้ 1 คืน
  3. ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางในถาดที่ทาน้ำมันมะพร้าว
  4. นำเข้าอบไฟ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-15 นาที จนเหลืองนวล พักให้เย็น
  5. นำอบควันเทียนให้หอม

ข้อมูลจาก thaifoodcookbook.net

—————————————–

11. สัมปันนี

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. นำแป้งมันสำปะหลังไปคั่วในกระทะ ใช้ไฟอ่อนๆคั่วจนแป้งสุก(แป้งสุกจะไม่ติดกระทะใช้นิ้วแตะดูจะไม่ติดนิ้ว) เมื่อแป้งสุกแล้วนำไปอบด้วยเทียนอบขนมเพื่อให้แป้งมีกลิ่นหอม อบทิ้งไว้หนึ่งคืน)
  2. นำกะทิและน้ำตาลทรายมาเคี่ยวให้ละลายเข้ากัน ลดไฟอ่อนค่อยๆเคี่ยวจนส่วนผสมข้นเป็นยางมะตูมอ่อนๆแล้วพักไว้ให้อุ่น
  3. เมื่อน้ำกะทิอุ่นนำมาแบ่งใส่สีผสมอาหารตามที่ต้องการ แล้วค่อยๆใส่แป้งมันสำปะหลังที่คั่วสุก คนผสมจนแป้งข้นเป็นก้อนพอปั้นได้
  4. นำส่วนผสมแป้งที่ได้มากรุใส่พิมพ์ให้แน่น แล้วเคาะออก พักให้ขนมแห้งจึงเก็บใส่กล่องไว้กินได้หลายวัน(แป้งที่ยังไม่ได้กรุใส่พิมพ์ต้องหาผ้าปิดเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง)

ข้อมูลและรูปภาพจาก cookpad.com

————————————-

12. ขนมไข่เต่า

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. นำมันเทศไปนึ่งจนนิ่ม แล้วนำมาบดให้ละเอียด
  2. เทแป้งมัน แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือ และน้ำตาลลงไปในชามผสม คนให้เข้ากัน
  3. จากนั้นก็ใส่มันที่บดไว้ลงไป เอามือขยำให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทกะทิลงไปผสมแล้วขยำให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง
  4. เมื่อได้แป้งที่ผสมเสร็จแล้ว นำมาปั้นให้เป็นเม็ดกลมขนาดเท่ากับลูกชิ้นปลา
  5. ตั้งหม้อใส่น้ำมันให้ท่วม เมื่อน้ำมันร้อนจัดแล้ว ใส่ตัวขนมลงไปทอด เมื่อขนมเริ่มเปลี่ยนสีให้ใช้ตะหลิวคลึงๆ ตัวขนม (ทำเหมือนที่ร้าน) ขนมจะได้กรอบนอกนุ่มใน
  6. เสร็จแล้วให้ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นก็จัดการกินตอนที่กำลังร้อนๆ เลยค่ะ

———————————–

13. ลูกชุบ

ส่วนผสม

วิธีทำ

  1. นำถั่วเขียว น้ำตาลและกะทิ ปั่นรวมกันจนเนียน
  2. เทส่วนผสมลงไปในกระทะแล้วเคี่ยวจนถั่วนั้นปั้นเป็นลูกได้
  3. เตรียมสีผสมอาหารแยกไว้เป็นสีละถ้วย และเตรียมอุปกรณ์สำหรับเพ้นท์ เช่น พู่กัน และไม้แหลมสำหรับเสียบลูกชุบ
  4. ปั้นขนมให้เป็นรูปผลไม้ต่างๆ จากนั้นก็เสียบด้วยไม้แหลม ปักพักไว้ก่อน
  5. นำขนมที่ปั้นแล้ว ตกแต่งสีได้เลย แล้วนำไปตากให้สีแห้ง
  6. ละลายวุ้นเตรียมไว้ เมื่อขนมพร้อมแล้วให้นำมาชุบกับวุ้น เคลือบให้ขนมเป็นขึ้นเงาสวย อาจจะจุ่มสองรอบเพื่อความหนามากยิ่งขึ้น

————————————–

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประวัติ ท้าวทองกีบม้า ราชินีแห่งขนมไทยในบุพเพสันนิวาส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Copyright © 2016 MThai.com All rights reserved. หมายเลขทะเบียนการค้าอิเล็กทรอนิกส์ : 0127114707040