วันนี้ ทีมงาน FoodMThai มีโอกาสแวะเวียนไปย่าน เอกมัย และได้ไปสะดุดตากับร้าน Un Fashion Cafe ที่หน้าปากซอย เอกมัย 10 ที่ดูจากภายนอกเหมือนโรงงานเก่าๆ แต่พอลองได้เข้าไปสัมผัสกับภายในร้านแล้ว ก็จะได้รับความรู้สึกที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศที่แสนวุ่นวายภายนอกให้กลายเป็น Slow life ในทันที เกริ่นมาขนาดนี้หลายคนอยากตามเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศ Slow life กันแล้วล่ะสิ งั้นตามกันมาเลยครับ
เราพาทุกท่านย้อนเวลาไปสู่ยุควินเทจกับ คาเฟ่ เท่ๆ ที่ เอกมัยซอย 10 กัน จากร้านขาย รองเท้า เครื่องหนัง แฟชั่นแบบวินเทจ ซึ่งได้แตกไลน์เพิ่มมาเป็นร้าน กาแฟและ เบเกอรี่ โดยใช้ชื่อเดียวกันซึ่งก็สังเกตุไม่ยาก เข้ามาจากปากซอยสุขุมวิท 55 โครงการ Grass ทองหล่อ จะอยู่ขวามือ ติดถนน สามารถจอดรถในโครงการได้เลย
ซึ่งพอเข้ามาในร้านแล้วก็จะได้กลิ่นหอมของกาแฟและเบเกอรี่ ทำให้ผ่อนคลายจากความเร่งรีบจากภายนอก พอเข้าไปถึงก็ เจอเค้าท์เตอร์กาแฟ และทางซ้ายมือก็จะเป็น ชั้นวางขนม ให้เลือก พอสั่งเครื่องดื่ม ขนมและเบเกอรี่ เรียบร้อยแล้วก็เดินไปจ่ายเงินได้เลย
ชำระค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ใบเสร็จ ที่มี User name กับ Pass Word สำหรับเข้าใช้ WiFi ของร้าน นั่งเล่น Net Check in รอ ขนมและเครื่องดื่มที่สั่งไปพลาง ๆ หรือใครที่ชอบถ่ายภาพ ร้าน Un Fashion Cafe ก็มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเล่นมากมาย ด้วยสไตลการแต่งร้านที่ดูเท่ๆ แบบวินเทจ ถ่ายภาพ Up ลงโซเชียลเนทเวิร์คเมื่อไหร่ เพื่อนๆ แห่ตามมากดไลค์ แน่นอน
บรรยากาศในร้านตกแต่งแบบวินเทจ ด้วย หนังสือ เฟอร์นิเจอร์ ไม้ ผ้า และ สินค้าวินเทจจากในร้าน มาวางโชว์และถ้าถูกใจก็สามารถซื้อกลับบ้านได้เลย ร้าน Un Fashion Cafe มี ที่นั่งชิลๆ ที่สามารถชมบรรยากาศเมือง ในชั้นล่าง และถ้าใครชอบบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว ทางร้านก็มีชั้น 2 ที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวสุดๆ
ทุกๆ มุมของร้านมีไสตล์การตกแต่งแบบวินเทจที่ลงตัว ที่เอาใจใส่ทุกรายละเอียดการจัดวางทำให้ เมื่อได้เข้ามาแล้วสามารถซึมซับบรรยากาศ แบบ Slow life ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมาคนเดียว หรือ มากับเพื่อน ก็ชิลกันได้ทั้งแก๊งค์
มุม โชว์สินค้า ของร้านเป็นอีกมุมที่ใครได้มาที่ร้านก็ต้องหยุดดู เพราะ ทางร้านจัดวางสินค้า สุดวินเทจ มาวางโชว์ตกแต่งร้าน ไม่ใช่แค่วางโชว์เพื่อตกแต่งอย่างเดียว เพราะว่า หากใครถูกใจสินค้าตัวไหน ก็สามารถซื้อติดมือกลับบ้านได้เลย
เมื่อ เมนูที่เราสั่งไปเสร็จแล้ว พนักงานก็นำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ ถึงเวลาชิมกันแล้วตามไปชิมพร้อม ๆ กันเลยครับ
รอแค่ไม่นาน พนักงานของร้านก็นำเมนูแรกมาเสิร์ฟกับ สตรอเบอรี่ลาเต้ (straw berry latte) ด้วยรสชาติหอมหวาน ของสตรอเบอรี่ ผสมผสานกับความหอมมันของกาแฟนมอย่างลาเต้ ได้ลงตัวแบบสุดๆ หยิบขึ้นมาดื่มปั๊บ สดชื่นขึ้นทันทีที่ได้ดื่ม
ตามกันมาติดๆ กับเมนูที่ สอง ช็อคโกแลตเย็น (Ice Chocolate) ด้วยรสชาติที่หอมหวานของ ช็อคโกแลตเข้มข้น อร่อยลงตัวของร้าน บอกเลยว่าต้องหาเวลาว่างๆ หลบความวุ่นวายและอากาศร้อนๆภายนอก มานั่งชิลจิบ ช็อคโกแลตเย็น (Ice Chocolate) สูตรพิเศษ ที่ต้องมาลอง แล้วฟินจนติดใจ
เครื่องดื่ม แก้วต่อไป เมนูที่ 3 กับ กาแฟรสเข้ม ผสม โกโก้ อย่าง เมนู ม็อคค่าเย็น (Ice Mocha) ที่ผสมผสานรสชาติกลมกล่อม ของกาแฟกับโกโก้แบบเข้มข้น จนรสชาติหอมหวานเข้มข้นอร่อยถึงใจ ลงตัวแบบสุดๆ เป็นอีกเมนูที่ต้องลอง
เมนูปิดท้ายความฟิน กับ เมนูที่ 4 วาฟเฟิ่ลชอคโกแลต (Waffle Chocolate) วาฟเฟิ่ลชิ้นโตๆ อบมาแบบกรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมเย้ายวน เสิร์ฟมาพร้อมกับทอปปิ้งหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นกล้วย กีวี สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ แถมยังมีวิปครีม และไอศครีมลูกใหญ่ๆ เพิ่มความอร่อยด้วย ช็อคโกแลตซอส เครื่องแน่นจัดหนักขนาดนี้ ต้องไปลองกันให้ได้ครับ รับรองอย่างฟิน แน่นอน
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับร้านสุดวินเทจ อย่าง Un Fashion Cafe ที่เราพาทุกท่านมานั่งชิวกันในวันนี้ ถ้าใครอยากมาก็ไม่ยากเลยครับ ถ้าขับรถมาเองก็มีที่จอดรถในโครงการเลย หรือถ้ามารถไฟฟ้าก็แสนง่าย ลงสถานีเอกมัย แล้วต่อมอเตอร์ไซค์เข้ามาแป๊บเดียวก็ถึง ใครชอบความชิว ชอบ Slow life แนะนำเลยครับไม่ผิดหวังแน่นอน กับ ร้านนี้ FoodMThai คอนเฟิร์มความอร่อยครับ…!!!