"Osha" (โอชา) ภูเก็ต ร้านอาหารไทยท้องถิ่น สไตล์ฟิวชั่น

“Osha” (โอชา) ร้านอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยการคัดสรรนำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีของจังหวัดต่างๆ มาปรุงอาหารรสเลิศ บวกกับเพิ่มลูกเล่นสไตล์ฟิวชั่น แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นไทย วันนี้ Food.MThai จะพาไปลิ้มลองความอร่อยกันถึงเมืองภูเก็ต!

“Osha” (โอชา)
ร้านอาหารไทยท้องถิ่น สไตล์ฟิวชั่น

“Osha” (โอชา) หรือ Osha Thai Restaurant & Bar เป็นร้านอาหารไทย ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารสไตล์ฟิวชั่น ที่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารไทยเอาไว้ หัวใจของการปรุงอาหารของที่นี่จะใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของแต่ละจังหวัดมาปรุงเป็นอาหารรสเลิศ

ร้านโอชา เปิดสาขาแรกที่ซานฟรานซิสโก เป็นร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 17 ปี มีสาขาในต่างประเทศหลายสาขา ต่อมาได้มาเปิดสาขาที่ไทยมีด้วยกัน 2 สาขา คือ ซอยร่วมฤดี ถนนวิทยุ และ เอเชีย ทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โกดัง 10 ส่วนสาขาที่เราจะพามาทานกันนั้นเป็นอีกหนึ่สาขาที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของจังหวัดภูเก็ตค่ะ อยู่ตรงสี่แยกตะกั่วป่า ติดกับโรงแรม On On Hotel

“Osha” (โอชา) สาขาภูเก็ต นั้นมีอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกทาน มีทั้งแบบ a la carte, Family หรือเสิร์ฟแบบ English style เป็นต้น ซึ่งสาขาภูเก็ตนี้อาหารจะเป็นแบบ พารานากัน (Peranakan Cuisine) เพิ่มเอกลักษณ์และกลิ่นอายท้องถิ่นของภาคใต้เข้ามา แต่ก็ยังคงเมนู Singnature ดั้งเดิมของทางร้านเอาไว้

อาหารแนะนำ

ฮูแช้ (Hoo Chae) – 220 บาท

สลัดภูเก็ต มีผักบุ้งลวก แตงกวา ผักสลัด เต้าหู้ทอด กุ้งสด
ราดด้วยน้ำจิ้มมะขาม น้ำจิ้มภูเก็ตสูตรเด็ดของทางร้าน รสชาติออกเค็มเปรี้ยว อมหวาน

ต้มยำกุ้ง (Tom Yum Koong) – 390 บาท

น้ำต้มยำสูตรเข้มข้มที่ต้มให้เดือด ก่อนนำมาราดใสถ้วยที่เตรียมกุ้งสดๆ ตัวใหญ่ๆ เอาไว้
ซึ่งรสชาตินั้นเราสามารถเลือกเติมความเปรี้ยว เผ็ด ได้ตามความต้องการ แต่สำหรับเราถือว่าอร่อยมาก โดยที่ไม่ต้องปรุง

ทานกับข้าวกล้องออแกนิคร้อนๆ ที่อบหอมมาในลูกมะพร้าว (ข้าวกล้องมะพร้าว 120.-)

ปอเปี๊ยะภูเก็ต (Por Pia) – 180 บาท
แป้งเนื้อนุ่ม ข้างในมีเนื้อหมู ผัก ทานคู่กับซอสสไปซี่โฮมเมด เข้ากันได้อย่างลงตัว

กุ้งแช่น้ำปลา (Dancing King Prawng) – 380 บาท

กุ้งแช่น้ำปลา ทานคู่กับ บีทรูทและแตงกวา ราดด้วยซอส Cilantro Granita
รสชาติเผ็ดเปรี้ยว คล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ด

หมูฮ้อง (Moo Hong) – 350 บาท

หมูสามชั้นเคี้ยวจนได้ที่จนน้ำซุปซึมเข้าเนื้อ เมื่อทานแล้วจะรู้สึกถึงหมูเนื้อนุ่มแทบละลายในปาก
เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน การันตีความอร่อย!

แดงส้มปลามง (Kaeng Som Pla) – 250 บาท

ใบเหลียงผัดไข่

รสชาติกลมกล่อมของผักใบเหลียง คลุกเคล้ากับไข้และกุ้งแห่งตัวโต
ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานเปล่าๆ ก็อร่อย

น้ำพริกภูเก็ต (Nam Prok Phuket) – 190 บาท

น้ำพริกสูตรดั้งเดิมของเมืองภูเก็ต เสิร์ฟคู่กับผักต้มหลากหลายชนิด

Osha Chada (โอชา ชฏา) – 555 บาท
เครื่องดื่ม singnature ของทางร้าน น้ำเสาวรสคั้นสดผสมกับแม่โขงรสกลมกล่อม

*พารานากัน (Peranakan Cuisine) อาหารที่ถือได้ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวพารานากันที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น คำว่าพารานากัน เป็นชื่อเรียกกลุ่มชาติพันธุ์ที่เดินทางเข้ามายังดินแดนแถบแหลมมลายูและมีการแต่งงานกับชนพื้นเมืองชาวมาเลย์ เกิดเป็นลูกผสมซึ่งมีทั้งจีน-มาเลย์ อินเดีย-มาเลย์ และลูกครึ่งตะวันตก โดยนิยมเรียกหญิงพารานากันที่มีเชื้อสายจีนว่า นอนยา (Nyonya) หรือทางภาคใต้ของบ้านเราเรียกว่า ย่าหยา นั่นเอง ดังนั้นบางครั้งเราอาจได้ยินชื่ออาหารพารานากันในอีกชื่อคือ อาหารนอนยา

อาหารพารานากัน มีความละเอียดอ่อนทั้งในเรื่องของกรรมวิธี การเตรียมวัตถุดิบที่ใช้เวลามากและเครื่องปรุงที่ซับซ้อน ลักษณะของอาหารพารานากัน คือการผสมผสานอาหารจีนเข้ากับอาหารมาเลย์ และอาหารอินโดนีเซีย โดยประกอบด้วยวัตถุดิบที่คนไทยคุ้นเคยเช่น กะทิ พริก น้ำมะขามเปียก กะปิ ลักษณะอาหารพารานากัน จะว่าไปก็คล้ายกับแกงต่างๆของบ้านเรา มีบ้างที่บางชนิดอาจมีหน้าตาต่างกันออกไป